จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก Fern Wlk โพสต์คลิปเหตุการณ์ถูกชายปริศนาบุคเข้ามาในบริเวณบ้านกลางดึก โดยระบุข้อความที่โพสต์ว่า “ ไม่เคยกลัวตายเท่านี้มาก่อนเลย เรื่องเกิดเมื่อคืนตอนตี4 กว่าเกือบตี5 เรานอนอยู่ได้ยินเสียงเหมือนคนทำอะไรปังๆนอกร้าน เปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นผู้ ชายกำลังเอาโซ่ยาวๆฟาดทำลายกล้องวงจรปิด ตอนนั้นใจหายแวปไปอยู่ตาตุ่ม กลัวมากถึงมากที่สุด เรารีบกดเบอร์โทรสามัญที่ถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก 191 ปรากฎสายไม่ว่าง ไม่มีคนรับ สักพักสายตัด มือไม้สั่นไปหมด ตัวเย็นเจี๊ยบ สักพักมันเดินรอบบ้าน เอาหน้ามาแนบประตู+หน้าต่างกระจกเหมือนจะดูว่ามีใครอยู่มั๊ย เราไปนั่งคุดคู้แอบอยู่หลังตู้เสื้อผ้า โทรหาเบอร์ทุกคนที่นึกออก ชั่วโมงนั้นแค่เสิร์ชหาเบอร์สถานีตำรวจใกล้เคียง ยังตาลาย อ่านอะไรไม่ออกเลย โชคดีที่โทรหาเพื่อนติด เพื่อนรีบส่งเบอร์สน.ตำรวจใกล้ๆมาให้ ตำรวจรับสายด้วยความงัวเงีย บอกจะประสานงานให้ ประมาณตี5 นิดๆ ไม่ได้รีบร้อนกับเรา ทั้งๆที่เรากลัวจะตายอยู่แล้ว บอกสักพักเดี๋ยวเข้ามา โทรหาตำรวจเสร็จ โทรหาพ่อ ที่บ้านอยู่ไกลกว่าสถานีตำรวจมาก ปรากฎพ่อมาถึงก่อนตำรวจจ๊ะ เจอคนบ้ามันนั่งหลับอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว แถมไล่คนบ้าออกไปอีก อย่างกะในหนัง ที่พระเอกไล่คนร้ายออกไปได้ สักพักตำรวจมาเกือบ6โมง ความเสียหายที่เกิดขึ้น คือกล้องวงจรปิด 1 ตัว ที่มันฟาดจนแหงนหน้าขึ้นฟ้า ไอติมในตู้เย็นหายไป 1 แท่ง ลิโพหายไป 1 ขวด ถามตำรวจได้ความว่าเป็นคนบ้าแถวนี้ คนร้องเรียนบ่อย แต่ทำอะไรไม่ได้ เอาความเอาผิดก็ไม่ได้ อยากมากก็ได้แค่จับไปขังละก็ปล่อย ชื่อไม่รู้ บ้านมันอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่มันไม่เคยทำร้ายใคร(เขาว่างั้น) แต่มาทำลายกล้องเรา แถมปิดหน้าตาปิดตาใส่หมวกใส่แมส “

วันที่ 8 มิ.ย. 66 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่คลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบกับสัตวแพทย์หญิง วาลิกา จิตรจันทึก เจ้าของคลินิกรักษาสัตว์และเจ้าของโพสต์ดังกล่าว ได้พาดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าเหตุการณ์วินาที ชายปริศนาบุกบ้าน ว่า เมื่อเวลา 05:00 น. ได้มีชายปริศนา อายุราว 25-30 ปี บุกเข้ามาที่บ้านซึ่งเปิดเป็นคลินิกรักษาสัตว์ด้วยและตนก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย จากคลิปชายคนดังกล่าวแต่งกายใส่หมวกแก๊ป เสื้อคลุมแขนยาวสีขาวตัดดำ กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะ บุกเข้ามาและพยายามเอาโซ่มาฟาดที่กล้องวงจรปิด เพื่อจะทำลายไม่ให้จับภาพได้ และเอาหน้ามาแนบกับหน้าต่างเพื่อส่งว่ามีคนอยู่ในบ้านหรือไม่ ช่วงนั้นตนตกใจมากกลัวจนตัวสั่นจึงไปแอบอยู่หลังตู้เสื้อ ผ้าและไม่ส่งเสียง และพยายามโทรหา 191 แต่สายไม่ว่างไม่มีคนรับสาย เลยค้นหาเบอร์สถานีตำรวจใกล้เคียง จึงรีบโทรแจ้งเหตุและตำรวจแจ้งว่าอีกสักพักจะเข้ามา หลังกจากนั้นก็โทรหาพ่อ ซึ่งบ้านพ่ออยู่ไกลจากที่พักตนประมาณ 20 กิโลเมตร กว่าจะมาถึงก็นาน แต่ปรากฎว่าพ่อมาถึงก่อนตำรวจ และไล่ชายปริศนาไป และได้ขโมย ไอติมในตู้เย็นหายไป 1 แท่ง ลิโพหายไป 1 ขวด
ต่อมาจนเวลา 6.00 น. ตำรวจจึงมาถึงหน้าบ้านตำรวจถามตนว่าใช่คนเมื่อกี้ไหมเพราะเพิ่งสวนกันไป ตนก็บอกว่าใช่ ตนก็ถามว่าให้จับเลยได้ไหมตำรวจก็บอกว่าจับไม่ได้ เค้าเป็นคนบ้าจับไปก็ต้องปล่อยออกมา ตนก็กลัวมากไม่รู้จะทำอย่างไรกลัวชายคนนี้กลับมาอีก หากเป็นคนบ้าก็อยากให้จับไปบำบัดและไม่ต้องให้กลับมาอีก
นายชวลิต เลิศพันธ์ อายุ 59 ปี ประธานชุมชนบางจาก ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง กล่าวว่า ปกติชายคนดังกล่าว จะเข้ามาเอาน้ำและข้าวจากบ้านน้าในชุมชนบางจากประจำ ตนเห็นตนก็ตักเตือนประจำ เพราะก่อเหตุลักษ ณะนี้ประจำ ตนก็เข้าไปเตือนกับน้าสาวของชายคนดังกล่าว ตัวน้าสาวเองก็ปวดหัวไม่รู้จะทำอย่างไร ตนก็ไม่ทราบชื่อ แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นคนเพี้ยน ยังเห็นว่าเก็บของเก่าขาย ส่วนเรื่องเกี่ยวข้องของยาเสพติดตนก็ไม่ทราบ แต่ว่าชอบก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อย แม้ แต่ราวตากผ้าของบ้านตนก็ยังขโมยไป

พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภเมืองระยอง จ.ระยอง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง และพูดคุยกับ สพ.ญ.วาลิกา และทราบเรื่องราวทั้งหมด โดยจะสั่งการให้ชุดสืบและสายตรวจ สภ.เมืองระยอง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเร่งรัดหาตัวคนก่อเหตุ หากเป็นคนปกติก็จะนำตัวมารับโทษดำเนินคดี หากเป็นคนเร่ร่อนหรือคนบ้า ก็จะประ สานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวและดำเนินการรักษาต่อไป ช่วงระหว่างนี้ก็จะส่งสายตรวจมาตรวจเป็นระยะ ทั้งที่บ้านและที่คลินิก เพื่อให้ สพ.ญ.วาลิกา รู้สึกปลอดภัยและคลายกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น.
Discussion about this post