นนทบุรี วันที่ 7 ก.ค.66 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากกรณีในโลกโซเชียล ปรากฏเด็กชายวัย 7 ขวบ ถือป้ายประกาศขายบ้านระบุข้อความว่า “ช่วยซื้อบ้านผมหน่อยครับจะเอาเงินไปผ่าตัด แม่ทำงานคนเดียวหาเงินไม่ทัน ขอบ คุณครับ” ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านชั้นเดียว มีป้ายประ กาศรับซื้อขายบ้านติดอยู่หน้าบ้าน ถูกรีโนเวทใหม่หมดทั้งหลัง เพื่อเตรียมขายแต่ไม่พบใครอยู่บ้าน ต่อมาจึงเดินทางไปที่หอพักแห่งหนึ่งภายใน อ.บางบัวทอง จ.นนท บุรี ที่ ด.ช.ภาคภูมิ อาศัยอยู่กับ น.ส.อรวรรณ(แม่)
น.ส.อรวรรณ ชาญเชิดศักดิ์ (แอน) อายุ 49 ปี แม่น้องภาคภูมิ อาชีพ รับซื้อของเก่า กล่าวว่า ตนมีลูก2คน น้องภาคภูมิคือคนเล็ก อายุ 7 ขวบ ตนซื้อบ้านหลังนี้ไว้เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ส่วนแฟนของตนป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ ตอนนี้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากแฟนไม่สามารถทำงานได้จึงไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูน้องภูมิ เนื่องจากน้องภูมิป่วยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่กำเนิดและโรคลิ้นหัวใจรั่ว พ่อแท้ๆก็เสียชีวิตไปตั้งแต่น้องอายุ 2 ขวบ ต้องใช้เงินเป็นค่ารักษาพยาบาลเยอะ รวมกับตนมีหนี้นอกระบบที่ไปกู้มาก่อนหน้านี้เพื่อใช้สำหรับพาน้องไปรักษาอีกประมาณ 70,000 บาท ตอนนี้ไม่มีเงินแล้วจึงตัดสินใจประกาศขายบ้าน แต่หลายเดือนแล้วยังไม่มีใครซื้อ จึงได้คุยกับลูกว่าจะประกาศขายผ่านโซเชียลเพราะเห็นลูกเล่นแอฟติ๊กต๊อก เพื่อจะมีสครเมตตาสงสารเข้ามาซื้อบ้าน จึงถามลูกว่าทำยังไง น้องภูมิเขาก็สอนแม่ เราก็ถ่ายกันอยู่สองคนแม่ลูกไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือเยอะขนาดนี้

น.ส.แอม เล่าอีกว่า ตั้งแต่แฟนป่วยและต้องย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัดตนเลยปล่อยบ้านหลังดังกล่าวให้คนอื่นเช่าและตนกับลูกย้ายออกมาเช่าห้องเล็กๆอยู่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย รายได้เก็บของเก่าต่อวันเฉลี่ยประมาณ 300- 400 บาท/วัน ตอนนี้ก็ทำอาชีพเสริมด้วย โดยการรับร้อยดอกดาวเรืองพลาสติกส่ง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ตอนนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนและทุกหน่วยงานี่เข้ามาช่วยเหลือ ตนซาบซึ้งใจมากไม่คิดว่าจะมีคนเมตตาเราสองคนแม่ลูกขนาดนี้ ซึ่ฝค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษาน้องภูมิรวมไปถึงหนี้นอกระบบทั้งหมดก็มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแล้ว
ทางด้าน นาย พีระ หรือชาย อายุ 64 ปี เพื่อนบ้านที่รู้จักกันมา 10 ปี เล่าว่ารู้จักกับแอนมานานหลายปีแล้ว แอนทำอาชีพเก็บของเก่าขาย ก่อนหน้านี้เขาก็เคยอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ช่วงหลังๆมาเขาปล่อยให้เช่าบ้าน ส่วนตัวเขากับลูกออกไปเช่าห้องอยู่กันข้างนอก คิดว่าเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็อยู่กับแฟน แต่แฟนเขาดื่มเหล้าบ่อย เห็นมีปากเสียงกันบ่อย หลังๆมาก็ไม่เห็นแฟนเขาแล้ว เห็นแค่เขากับลูก2คน ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสคุยกันเพราะแอนจะเข้ามารับซื้อของเก่าในหมู่บ้าน ตนยังเคยให้พวกขวดน้ำขวดพลาสติกไปขายเลย ไม่เคยรู้เลยว่าแอนป่วยเพียงแต่รู้สึกว่าตัวเขาบวมขึ้นแบบผิดปกติ ส่วนน้องภาคภูมิตนเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ น้องเป็นเด็กดี นิสัยดี ไม่ก้าวร้าว ช่วยแม่ออกมาเก็บของเก่าขายประจำ แต่หลังๆเห็นว่าร้องหยุดเรียนบ่อยไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอาการป่วยของน้องเขาและแอนด้วยรึเปล่า จากที่ตนรู้มาแอนเขาน่าสงสารต้องเลี้ยงน้องภาคภูมิคนเดียวเรื่องรายได้อาจจะไม่พอจึงต้องประกาศขายบ้านหลังนี้
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ พม. จัง หวัดนนทบุรีพร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมกิจเด็กและเยาวชนบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่เข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าให้ความช่วยเหลือเมื่อช่วงเดือนต.ค .65 และได้มอบเงินสงเคราะห์จำนวน 4,000 บาท และอีก 4,000 บาท ในเดือน ธ.ค.65 และได้ช่วยเหลือในส่วนของค่าเดินทางในการเดินทางไปรักษาที่โรงพยา บาลตลอดทั้งปี 2566 และในส่วนของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรีจะวางแผนในการดูแลเด็กและเรื่องของการศึกษาและครอบครัวของน้องภูมิต่อไป.
Discussion about this post