วันที่ 19 กรกฏาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นางมาดาชิณะ นายกะ หรือสุผู้บริหารโรงครัวริมนทั ต.วัดเกตุ อ.เมืองจ.เชียงใหม่ พร้อมนายมนตรี พรหมวนิชทนายความ แถลงข่าวกรณีศาลพิพากษา
ให้เป็นผู้จัดการมรดก ของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว ว่า ศาลมีคำสี่งให้ตนเองเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว คดีดังกล่าวถือเป็นที่สุดแล้ว ซึ่งบิดา ได้เสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้เนื่องจากยังไม่ได้เป็นผู้จัดการมร
ดก ไม่สามารถสืบทรัพย์สินของบิดาได้ ขณะนี้สามารถดำเนินการเรื่องทรัพย์สินอย่างเต็มที่แล้ว
“ภายหลังเป็นผู้จัดการมรดกดังกล่าว มีแผนแบ่งทรัพย์สินให้แก่บุตร และหลานที่เป็นทายาทโดยชอบธรรม ตามเจตนารมย์ของบิดา ที่เสียชีวิต พร้อมมีโครงการลงทุนและต่อยอดธุรกิจ ทั้งลงทุนเอง และร่วมทุนธุรกิจในเชียงใหม่ ในลักษณะเทกโอเวอร์ เพื่อเป็นธุรกิจของครอบครัวต่อไป” นางมาดาชิณะ กล่าว
ส่วนการติดตามคดีการเสียชีวิตของบิดาอย่างมีเงื่อนงำ มากว่า 1 ปี เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อคลายความสงสัยของญาติผู้เสียชีวิต ส่วนการฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องคดียักยอกทรัพย์สินผู้เสียชีวิต ให้เป็นหน้าที่ทนายความ ติด
ตามเรื่องดังกล่าว เพื่อเรียกร้องทรัพย์สินกลับคืนมา รวมกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้จะยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมติดตามคดีดังกล่าวต่อสำนักนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า หลังต่อสู้คดีดังกล่าวมากว่า 1 ปีแล้ว
จึงขอขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจมาโดยตลอดด้วย
ด้านนายมนตรี ทนายความ กล่าวว่าจากคดีดังกล่าว นำไปสู่การดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสาร หรือใช้เอกสารปลอม อาจมีความผิดคดีอาญา 3 กระทง คือ ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ รับของโจร เพิ่มเติม เพราะคดีปลอมแปลงเอกสาร ได้สร้างความเสียหายในการทำธุรกรรมทายาท ส่วนคดีอาญาร้ายแรงต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ตามขั้นตอนกฏหมาย ซึ่งผู้เสียหาย พร้อมเป็นโจทย์ร่วมในคดีดังกล่าว เท่าที่ตรวจสอบเอกสารมีหลักฐานที่เอาผิดได้ และมีโอกาสได้ทรัพย์สินคืน เพราะมีหลักฐานยืนยันอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้นได้ทำหนังสือหรือคำร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอตรวจสอบทรัพย์สินที่สูญหาย หรือถูกยักยอกไปแล้ว เพื่อประเมินความเสียหายต่อไป
//////////
Discussion about this post