สระบุรี แม่เด็กสงสัยคดีลูกไม่คืบตั้งแต่ต้นปี โรงพยาบาลเอกชนขื่อดังไม่เคยออกมาชี้แจง เอกสารบิดเบือนไม่ตรงกับความจริง

วันที่ 6 พ.ย. 66 จากกรณีคุณแม่รายหนึ่งพาลูกชาย 3 ขวบ ส่งโรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองสระบุรี หลังลูกมีอาการหอบ หมอตรวจบอกหลอดลมอักเสบ พ่นยาแล้วให้กลับบ้าน แต่เด็กกลับอาการหนักเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ต้องพาส่งรพ.อีกรอบ สุดท้ายหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต คราวนี้หมอระบุ ปอดอักเสบ เหตุการณ์ดัวกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29-30 มกราคม ที่ผ่านมานั้น วันนี้ทางว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ (แม่เด็ก) อายุ 25 ปี ว่าที่ ร.ต.ปริญญา บาศรี (พ่อเด็ก) อายุ 28 ปี พร้อมด้วย นาย อาลัยรัก วรวัฒน์ อายุ 54 ปี ทนายความ ได้ออกมาเรียกร้องอยากให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรือทางออกโรงพยาบาลออกมาชี้แจง หรือรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะล่วงเลยมาถึว 9 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีอะไีชรคืยหน้าสักอย่าง

ว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ (แม่เด็ก) อายุ 25 ปี เล่าว่า ลูกของตนได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นคาบเอี่ยวระหว่างวันที่ 29และ30 ซึ่งวันที่ไปน้องมีอาการหอบ มีไข้ หายใจ เร็ว เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเขาก็ให้พาน้องเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน ซึ่งวันนั้นที่ตนอุ้มลูกไป ลูกยังมีสติอยู่100% พอไปถึงห้องฉุกเฉิน หมอได้ให้อ็อกซิเจน และบอกให้พ่อกับแม่ออกมารออยู่ข้างนอก ตนได้รออยู่ประมาณ 2-3 ชม. หมอก็ได้เดินออกมาบอกว่า ลูกหัวใจหยุดเต้น อีกสักพักนึงหมอได้เดินออกมาบอกอีกว่า น้องเสียชีวิตแล้ว สาเหตุมาจาก อาการปอดอักเสบ ซึ่งก่อนหน้านั้นวันที่ 29 ม.ค.ช่วงเวลาประมาณ 10.00-11.00 น.ตนได้พาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้วหนึ่งรอบ หมอได้แจ้งว่าเป็น หลอดลมอักเสบ อาการไม่หนักมาก จึงได้ให้น้องกลับไปพักผ่อนที่บ้านและกินยาตามอาการ แล้วอีกประมาณ 3 วัน ซึ่งเป็นวันที่ 1 ก.พ. หมอได้นัดให้กลับไปดูอาการใหม่อีกรอบหนึ่ง เป็นโรงพยาบาลเดียวกัน แต่หมอคนที่นัด และหมอคนที่ดูน้องในวันที่เสียชีวิต เป็นคนละคนกัน

ตอนนี้ตนเองต้องการให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมาชี้แจงว่า ทำไมเรื่องถึงยังไม่คืบหน้า ในระยะเวลา 9เดือน ซึ่งตนก็รอมาตลอด แต่เรื่องก็เงียบหายไปเลย ตนเคยมาแจ้งความไว้แล้วครั้งนึง ทางตำรวจได้บอกว่า รอเอกสารจากทางแพทย์สภาก่อน แต่ตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่ ซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครเอื้อมมือเข้ามาช่วยเหลือเลย ตนจึงได้ปรึกษากับทางทหนายว่าจะทำอย่างไรต่อ ทางทนายก็ได้แนะนำให้มาแจ้งความเพิ่ม และไปทางสสจ.จังหวัด หลังจากนั้นตนก็ได้มาหาพี่บุปผา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับคณะกรรมการประกันสุขภาพแห่งชาติ จ.สระบุรี เขาได้บอกว่า ให้ตนรอเอกสารของทางแพทย์สภาก่อน ซึ่งระยะเวลาผ่านมานานมากแล้ว เรื่องมันยังไม่คืบหน้าสักที ตนเลยอยากมาแจ้งความใหม่

ส่วนเรื่องการร้องเรียนและเรื่องที่มีการขุดศพขึ้นมา อีกใจนึงตนเองรู้สึกดีว่าลูกจะได้รับความยุติธรรมแล้ว แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากเห็นลูกในสภาพแบบนี้ ตนเองพะวงเรื่องที่ว่า ทางโรงพยาบาลจะออกมาชี้แจงหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยออกมาชี้แจงเลยหรือออกมารับผิดชอบอะไรเลย และหลังจากที่นำศพลูกออกมาชันสูตรแล้ว ตนก็จะเก็บร่างของลูกไว้ จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม

นาง บุปผา วรวัฒน์ คณะกรรมการประกันสุขภาพแห่งชาติจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาขอให้ผู้กำกับช่วยน้องเขาหน่อย ว่าสามารถประสานหน่วยงานไหนเพื่อให้น้องได้รับความเป็นธรรมเรื่องที่ลูกเขาเสียชีวิตจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งน้องเขาบอกว่า ตอนที่มารพ.รักษาด้วยอาการหลอดลมอักเสบ แต่พอตนดูเอกสารของน้องเขามันเป็นในรูปแบบของปอดอักเสบ ทางคนเรามองก็จะดูเหมือนมีพิรุธ เพราะรักษาอีกอาการนึง แต่พอเสียชีวิตมันเป็นอีกอาการนึง ตนในฐานะหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จ.สระบุรี เป็นตัวแทนของ อ.วังม่วง ซึ่งทางมีคนได้รับความเสียหายจากตรงนี้ สามารถแจ้งหรือบอกเราได้ เราสามารถประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ ออกมาให้ความช่วยเหลือของน้องเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ตอนนี้ตนมองดูแล้วน้องยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเวลาที่ผ่านมา 9 เดือน ไม่มีหน่วยงานไหนออกมาแสดงตัว เพื่อช่วยเหลือน้องเลย ในวันนี้ตนมาพร้อมกับผู้เสียหายและทนาย เพื่อจะมาพบผู้กำกับว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ซึ่งถ้าได้คำตอบแล้ว ตนจะเดินทางไปที่สสจ.ต่อ เพื่อไปติดตามความคืบหน้า ทางโรงพยาบาลไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเลยเงียบไปเลย เบื้องต้นมีเอกสารบางส่วนไม่ถูกต้อง อย่างเช่น ใบรับรองการตายจากทางแพทย์ ที่เรามองว่ามันไม่มี และการชันสูตรพลิกศพก็ไม่มี ซึ่งทางโรงพยาบาลเป็นคนออก เพราะการเสียชีวิตของคนส่วนใหญ่มันต้องมีในส่วนนี้ ซึ่งตนมองว่าอันนี้มันก็มีพิรุธ และพอเด็กเสียชีวิตไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเลย จนน้องเขามาแจ้งความ ตำรวจก็ยังไม่ไปดู เหมือนกับทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งตำรวจ ตนเห็นว่าน้องไม่ได้รับความเป็นทำ จึงได้พามาขอพบผู้กำกับในวันนี้ ซึ่งทางน้องก็บอกว่าติดใจ เพราะว่าลูกเขาเสียชีวิตทั้งคน

นาย อาลัยรัก วรวัฒน์ อายุ 54 ปี ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ตนเองได้พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับท่านผู้กำกับ สภ.เมืองสระบุรี เพราะว่าลูกชายของน้องผู้เสียหาย ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเอกชนมาเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า วันนี้เลยต้องขอให้ท่านลงมาดูแลเรื่องนี้ เคสนี้ตั้งแต่เด็กเสียชีวิต ได้มีการแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ วันนี้เลยต้องพาน้องผู้เสียหายมาพบท่านผู้กำกับ เพื่อจะแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม เพราะคดีไม่คืบหน้า สาเหตุเพราะว่า คดีนี้มีคนตาย แต่ทางตำรวจยังไม่ได้ไปชันสูตรพลิกศพ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวชศาตร์ก็ยังไม่ได้ไปรับรองการตายว่า เขาตายเพราะอะไร มีแต่ทางโรงพยาบาลเอกชน ที่เด็กไปรักษา บอกว่า เป็นโรคปอดอักเสบ ซึ่งมันก็ไม่ชัดเจนเพราะว่า เขาไม่ใช่แพทย์ผู้ที่ทำการชันสูตรพลิกศพ และทางน้องผู้เสียหายได้ร้องเรียนไปทางสาธารณะสุขจังหวัดสระบุรี แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ จนกระทั่งเมื่อน้องผู้เสียหายมาสอบถามตนว่า ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ตนก็ขอเรียกตรวจเอกสารจากน้องเขามา ว่า การรักษาพยาบาลมีเอกสารอะไรบ้าง และการไปแจ้งความทำอะไรบ้าง ซึ่งน้องเขาก็เอามาให้ดู แต่ปรากฏว่าทำไมไม่มีใบชันสูตรพลิกศพ และรายงานการตายของแพทย์ ก็เลยสอบถามน้อง น้องก็บอกว่า คดีนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ใดๆทั้งสิ้นจากพนักงานสอบสวน และน้องผู้เสียหายก็ยังไม่ยอมเผาศพลูก เพราะต้องรอการพิสูจน์ที่ชัดเจนก่อน ในวันนี้ที่มา เพราะน้องผู้เสียหายต้องการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับผิดชอบการตายของลูกชาย แต่ตอนนี้ไม่มีหน่วยงานใดมารับผิดชอบและเยี่ยวยาน้องเขาเลย ตั้งแต่ลูกเขาเสียชีวิตไป ตนต้องการให้ท่านผู้กำกับลงมาด้วยตัวเองเลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องการร้องเรียน ครั้งแรกน้องผู้เสียหาย เคยไปพบ คุณบุปผา ซึ่งเป็นกรรมการหลักประกันสุขภาพ ที่คนที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคุณบุปผาได้พาน้องเขามาที่สสจ.ก่อน ที่สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัด ก็ได้รับความชี้แจงว่า เขาจะดำเนินการให้ จนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้า แต่ถ้าวันนี้มาพบผู้กำกับแล้ว แต่ไม่ได้ความกระจ่าง ก็จะต้องกลับไปที่สาธารณะสุขจังหวัดอีกครั้ง เพราะสาธารณะสุขจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ สถานพยาบาลทั้งหมดในจังหวัด ถ้ามีผู้ใดได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดต้องลงมาดู ตอนนี้ตนต้องการอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเอกชน ให้ออกมารับผิดชอบและเยี่ยวยาน้องผู้เสียหาย ไม่ใช่ปล่อยเพิกเฉย ระยะ 9-10 เดือนแบบนี้ ในกรณีผู้เสียหายเขาติดใจการตายของลูกชาย ที่ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนดังที่มีข่าว ทีนี้พอเจ้าพนักงานเขารวบรวมส่งเรื่องไปที่แพทย์สภา และทางสาธารณะสุขจังหวัดสระบุรี ก็ได้รวบรวมเรื่องส่งไปที่แพทย์สภา เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัย แต่เราพึ่งพบว่ามันมีข้อผิดพลาด ซึ่งในกรณีนี้ ศพยังไม่ได้รับการชันสูตรพลิกศพ และความเห็นของแพทย์ด้านนิติเวชศาสตร์ ให้เขารับรองการตายที่แน่นอน และเราได้ขอความร่วมมือกับทางสาธารณะสุข ว่า อยากจะให้ท่านเข้ามาเป็นพยานเอาศพน้องขึ้นมา เพื่อที่จะนำไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลสระบุรี เนื่องจากว่าผู้เสียหายร้องเรียนผ่านไปทางสาธารณะสุขจังหวัดสระบุรี และทางสาธารณะสุขจังหวัดสระบุรีเขาส่งเรื่องไปที่แพทย์สภา มันเป็นการข้ามขั้นตอน เนื่องจากผลของการชันสูตรพลิกศพของเจ้าพนักงานตำรวจ และความเห็นของแพทย์ยังไม่มีเลย วันนี้ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าพนักงานสอบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้มาเปิดศพ เพื่อที่จะนำไปชันสูตรพลิกศพต่อไปว่าสาเหตุการตายเป็นอย่างไรกันแน่ หลังจากการชันสูตรเสร็จแล้ว ก็จะมีการไปขอให้แพทย์ชะลอเรื่องการพิจารณาตรงนี้ก่อน จนกว่าผลชันสูตรพลิกศพจะออกมา

หิรัญยวัต อธิสัฒน์เดชากร / สระบุรี 0623601234