ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15 .00 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ. ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช. ภ.7 เดินทางมาที่จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเฮลิคอป เตอร์ หลังนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้มาติด ตามปัญหา ที่เกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ ปัญหาการรับซื้อยางพารา ยาเสพติด ไฟป่า และหนี้นอกระบบ โดยมี พล.ต.ต.นครินทร์สุ คนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีและข้าราชการตำรวจ ให้ การต้อนรับ ที่ สนาม ภ.จว.กาญจนบุรี จากนั้น เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยรถยนต์ เพื่อเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี ให้การต้อนรับ และรายงานข้อมูล นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี ทหาร ตำรวจและส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 30 นาที
ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า จริงๆแล้วท่านได้สั่งการมาก่อนหน้านี้แล้ว ท่านกำชับให้ลงพื้นที่ ก็ให้ท่านผู้ว่าเป็นแม่งานควบคุมการปฏิบัติงาน เพราะท่านจะรู้ปัญหาดี ตนก็แถลงแผนของนายกที่ท่านใส่ใจและเป็นนโยบายของท่าน คือ 1.ปัญหายาเสพติด 2.เรื่องปัญหาไฟป่า ที่เกิดขึ้นเพราะว่า คราวที่แล้วเรื่องยาเสพติด เราสามารถจับได้ถึง 50 ล้านเม็ด และบรรจุภัณฑ์ที่เจอ เป็นบรรจุภัณฑ์ ที่ผลิตทางตอนเหนือของประเทศเพื่อนบ้าน แต่มันไหลลงมาใต้ ทางทิศตะวันออก ประเทศเพื่อนบ้านเรา แสดงว่าทางด้านเหนือ ความยาวตะเข็บชายแดน 2,800 กว่ากิโล ทางเหนือเราบ๊อกไม่ได้ ทางประเทศลาว อีก 1,400 กิโล เราบ๊อกไม่ได้ ฉะนั้นยาเสพติดจะไหลจากทางใต้มาถึงระนอง ก็แสดงว่า เมืองกาญจน์เราบ๊อกไว้ได้ ปัญหายาเสพติดไม่ได้เกิดขึ้นในบ้านเรา เกิดขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบ ก็เลยต้องผลิต เพื่อหาเงินทุนไว้ในการสู้รบ เป็นปัญหากับเรามากๆ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องของยางเถื่อน ก็ให้ดูในเรื่องของการผ่านด่าน ค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งกรมสุนกากรจะเป็นผู้ดูแล ซึ่งท่านผู้ว่าก็บริหารจัดการไว้แล้ว ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว และในเรื่องยาเสพติด วันนี้ ไปดูที่ด่าน เราจะมีด่าน ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 บริเวณ 3 แยกทองผาภูมิ ตรงนี้จะเป็นด่านใหญ่ ถือว่าเป็นด้านถาวร และไม่มี 2 มาตร ฐาน ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นข้าราชการขับรถมา จะต้องให้ความร่วมมือในการตรวค้น ท่านผู้ว่าได้วางหลักไว้ ความร่วมมือทั้ง ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ตำรวจขับรถมาแล้วไม่ตรวจ ไม่ได้ ถ้าเป็นรถส่วนตัว ก็ต้องมีการตรวจค้น เพราะถือว่าตรงนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะสกัดได้ทุกอย่าง และเรื่องหนี้นอกระบบ วันที่ 29 ก.พ.67 จะเป็นวันสุดท้ายที่จะให้ลงทะเบียน ท่านสามารถลงทะเบียนได้ที่ว่าการอำเภอ ที่จังหวัด และโรงพัก ทุกแห่ง แล้วจะดำเนินการรายงานขึ้นไป เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นแม่งาน หนี้นอกระบบก็พยายามบริหารจัดการอยู่ ทางผู้ว่าฯจะเป็นหลัก 3 -4 อย่างนี้ที่ ท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับมา
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า เราโชคดี ที่มีฝนตกในพื้นที่ ทางทหาร ทางป่าไม้ ทางจังหวัด ทุกหน่วย ได้ลงพื้นที่ จาก100 จุด ในวันก่อน วันนี้เห็นจุด ฮอทสปอร์ต ประมาณ 3 จุดเอง ถือว่าไม่เยอะ ก็อยากให้คงมาตรฐานนี้ไว้ อยากฝาก ผบ.ภ.7 เรามีฮอ ก็บินตรวจพื้นที่ ภูมิประเทศที่นี่เป็นป่าไผ่ แล้วอากาศแห้งมาก โอกาสจะเกิดไฟมีสูง เมื่อเกิดไฟแล้ว เข้าไปในพื้นที่ยากมาก ทางกรมการปก ครอง ปภ.ก็ส่งฮอมาช่วย 2 ลำ ในการลำเรียงน้ำเข้าไปช่วยดับไฟ ก็คิดว่าปัญหานี้จะเบาบางลง เป็นไปตามท่านนายกรัฐมนตรีให้ตนลงมาดูกำชับการปฏิบัติ แล้วตนจะกลับไปรายงานให้ท่านทราบ
จากการฟังรายงานข้อมูลจากที่ผู้ว่าฯ ก็ดูว่า
บริหารจัดการไว้ได้ดี เพียงแต่ตัวเลขที่จะต้องทำรายงานให้เห็นภาพ ต้องรายงานให้ชัดเจน แล้วการรายงานไม่ใช่ต่างคนต่างรายงาน ทุกหน่วยต้องทำงานร่วมกัน ทำงานเป็นทีม แล้วต้องราย งานผ่านตนไปด้วย ฉะนั้นตัวเลขต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ด้านการประชาสัมพันธ์ ตนได้นำเรียนในที่ประชุม ควรทำ 3 มิติ คือ 1 ก่อนที่จะมีเทศกาลไฟป่า จะมีช่วงทามมิ่งของมัน จะประชา สัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบได้อย่างไร นอกจากเครสที่เป็นธรรมชาติ แต่เครสที่ชาวบ้านเผา หรือ อะไรต่างๆที่จงใจเผา ชาวบ้านต้องรู้ว่าโทษที่เขาจะได้รับ ในการจงใจเผา 2.เมื่อเกิดเหตุแล้ว การเข้าไประงับเหตุไฟ ทำยังไง ทางจังหวัดก็มีแผน เข้าไม่ได้ก็เอาฮอไป รถน้ำพร้อมที่จะเข้าไปดับไฟ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการบังคับใช้กฎหมาย การทำให้สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อไฟป่า ฉะนั้นเป็นหน้าที่ทุกหน่วย ต้องช่วยกัน ท่านก็ให้นโยบายกับทางทหารมาด้วย ให้งบประมาณลงมา ปีนี้ตนมองภาพรวมทั้งประเทศ ถือว่าดีมากๆ เพราะว่าทุกหน่วยช่วยกันหมด
สำหรับด่านตรวจ ถ้ามีการทะลักเข้าเมืองกาญจน์ ไม่ใช่เฉพาะยาเสพติดอย่างเดียว แม้กระทั้งยางที่เข้ามา รถน้ำหนักเกิน เรายังต้องไปเอาเครื่องชั่งที่อื่น แต่เมืองกาญจน์ เป็นเส้นทางการลำเรียงยางดิบเข้ามาแล้ว เราเก็บค่าธรรมเนียม พ่วงละ 500 บาท คุ้มกันไหมที่ถนนต้องพัง ถนนไม่เอื้ออำนวยต่อการขนส่งโรทิสติกในลักษณะอย่างนี้ เกิดอุบัติเหตุตั้งเยอะ ที่นายกท่านสั่งการมา เกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นทางเขา เห็นว่าจะเปิดด่านอีกด่านหนึ่ง เพื่อให้เข้าทางนี้ แต่ถนนทางโน้นเขายังไม่เรียบร้อย แต่เรารู้อยู่แล้วว่าเขากำลังทำถนน เพื่อเปิดให้เข้าทางนี้ ซึ่งถนนที่ด้านเหนือของเรา ทางทองผาภูมิมันอันตราย ถ้าเข้าด้านนี้ ทางจังหวัดก็เตรียมแล้ว ถ้ารถคอนเทรนเนอร์ที่ขนยางเข้ามาทางนี้ เขาจะผ่านด่านตรวจเช็ค และด่านชั่งน้ำหนัก ต้องมีแหละ ก็จะนำเรียนท่านนายกต่อไป ก็ถือว่าวางแผนไว้ดีมาก.
ภูริตา สายแก้ว /กาญจนบุรี
Discussion about this post