เมื่อวันที่ 8 พ.ค.67 ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบางบัวทอง (โรงรับจำนำ) ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ประชาชนนำข้าวของเครื่องใช้ เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครืองซักผ้าเครืองฝอกอากาศ ไมโคเวฟ จักรเย็บผ้า เครื่องมือทำการก่อสร้าง นาฬิกาข้อมือ ปั้มลม ลองเท้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ทองรูปพรรณ หรือของที่มีมูลค่าของแต่ละคนนำมาจำนำเต็มโรงรับจำนำ
น.ส.ธัญญารักษ์ มั่นประสิทธิ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลผู้ตรวจการสถานธนานุบาลประจำเขต 3 กล่าวว่า บางครั้งความลำบากมันไม่มาตอนที่มีตัง แต่จะมาตอนที่ไม่มีตังมากกว่า ช่วงที่มีบางคนก็ซื้อรองเท้ามาเก็บสะสมมันก็มีราคา ซึ่งในตอนนี้รองเท้ารุ่นนี้ก็มีราคาอยู่ พอตอนที่เขาลำบากไม่มีตังเขาก็เอาของสะสมที่มีราคามาจำนำ ทางเราก็ให้ราคาที่เขาพอรับได้และเรารับได้จะได้สบาย ใจทั้ง2ฝ่ายเพราะที่นี้ดอกเบี้ยถูกอยู่แล้ว ถ้าสมมุติว่าหลุดจำนำ เราจะให้สิทธิ์เจ้าของรองเท้าก่อนในการซื้อคืนก่อน สมมุติรับมาคู่ละ 1,000 บาท ก็คิดไปเลย 20% เพราะเจ้าของคงพอจะมีกำลังทรัพย์ที่ซื้อคืนได้ ซึ่งรัฐบาลจะเป็นระเบียบเดียวกันหมด เจ้าของสามารถมาซื้อทรัพย์ของตัวเองที่หลุดจำนำได้ในราคาประเมิน และก็ยังมีสกู๊ดเตอร์ไฟฟ้า ที่เขาเอามาจำนำเพื่อไปจ่ายค่าไฟเจ้าของซื้อมาเกือบ 30,000 บาท แต่ทางเราก็รับมาตามสภาพการใช้งาน เราเห็นเข้าซื้อมา 20,000- 30,000 บาท เราก็รับจำนำไว้ 2,000 – 3,000 บาท ก็พอช่วยๆกันเพื่อบรนเทาความเดือดร้อนของเขา เพราะว่าค่าไฟช่วงนี้เด็กจะปิดเทอมอยู่บ้าน และอากาศร้อน 43-44 องศา ก็เปิดแอร์กันเต็มที่ ค่าไฟจึงขึ้นตอนสิ้นเดือนก็มีเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าไฟอะไรที่เปลี่ยนเป็นเงินได้เขาก็เอามาจำนำ
โรงรับจำนำของเราเป็นของรัฐบาลอยู่แล้ว นโย บายก็ช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ส่วนดอกเบี้ยของสกู๊ดเตอร์ไฟฟ้าอันนี้ ก็ร้อยละ 25 สตางค์ หรือ 0.25 สตางค์/เดือน และยังมีทีวี ที่เรารับจำนำ 3,500 บาท ซึ่งก็รับตามสภาพตามเกรด ซึ่งของเขาก็มีคุณภาพ แต่เราดูจากค่าความนิยม ตอนที่เขาซื้อก็ซื้อมาได้แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องเอาไปจ่ายค่าการศึกษา ซึ่งในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าตอนนี้มันถูกมากและยังมีระยะเวลาในการเก็บรักษาถ้านานๆไปมันก็จะเสื่อมสภาพดูๆอยู่ดับเองก็มี ซึ่งปัญหาของโรงรับจำนำในตอนนี้คือเงินทุนหมุน เวียนในการรับจำนำ และได้ทำเรื่อง OD ไปที่จังหวัดแล้ว ซึ่งในตอนนี้ท่านผู้ว่ากำลังพิจารณาอยู่ไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว แต่ ณ วันนี้ประชาชนเดือดร้อนมากๆ ณ วันนี้ทางโรงจำนำก็มีเงินที่จะรับจำนำ ขนาดโรงเรียนยังไม่เปิดกันเต็มๆ ประชาชนก็ยังไม่ค่อยเยอะ และเราก็ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ โรงจำนำเรารู้ตัวเองดีมีเงินเพื่อรับจำนำอยู่แค่ประมาน 4-5ล้านบาท ถ้าประชาชนมาเยอะๆเราจะไม่มีเงินรับจำนำ มีแค่ 4-5 ล้าน จะทำอะไรได้ เบิกมาวันล่ะ 1 ล้าน เพื่อช่วยเหลือประชาชนก็หมดแล้ว ตอนนี้เรื่องมันอยู่ที่จังหวัด ที่พิจาราณากู้เงิน OD ของธนาคารออมสิน ซึ่งทางโรงรับจำนำของเราของอนุมัติไปที่ท่านผู้ว่า 50 ล้าน เราก็ได้ขอไปหลายปีแล้ว ถ้าปีนี้ได้เราจะดีใจมากๆ และขอบคุณแทนประชาชน หรือเพียง 20 -30 ล้านก็สามารถช่วยประชาชนได้เต็มที่แล้ว ขอเพียงมีเงินช่วยประชาชนได้ ณ วันนี่ก็พอ เพราะเวลาอื่นๆเราสามารถบริหารจัดการได้ แต่ ณ วันนี้เราบริหารไม่ได้จริงๆเพราะว่าเราไม่มีเงินอาจไปอยู่ส่วนอื่นบ้าง แต่กระบวนการเหล่านั้นกว่าจะขายได้ก็อีกสักพัก แล้วในช่วงเปิดภาคเรียนนี้
โดยท่านขจร ศรีชวโนทัย ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ท่านได้มีการช่วยเหลือประชาชนในช่วงเปิดภาคเรียนในปี 2567 ก็จะมีสำหรับสถานธนานุบาลทั่วประเทศประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ณ ตอนนี้ ก็จะมีอัตราดอกเบี้ย 1 พ.ค. – 30 มิ.ย. ระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 0.25 สตางค์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกมากๆ ถูกกว่าเงินกู้ของธนาคาร และ เงินต้นเกิน 5,000 บาท ก็จะคิดอัตตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 บาท ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ แต่ที่ท่านช่วยคืออัตราดอกเบี้ย ร้อยล่ะ 25 สตางค์ ก็ขอเชิญชวนประชาชนมาใช่บริการของสถานธนานุบาล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ที่เทศบาล เกือบทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งค้นหาง่ายๆโรงรับจำนำของรัฐบาล.
Discussion about this post