
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวลง พื้นที่ไปยังวัดทางหลวง ศาลา 3 ต.บาง เขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พิธีสวดอภิธรรมศพของไพศาล ทองอ่อน หรือ โต๊ส อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ หลังถูกนายภูริณัฐ หรือโฟโต้ อายุ 58 ปี ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงหมกศพไว้ในคอนโดหรูย่านงามวงศ์วานนานหลายวัน
โดยบรรยากาศภายในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตพร้อมญาติ ต่างเดินทางทยอยมารอรับศพ กระทั่งเวลา 14.20 น. รถเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำร่างผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัด โดยนางบรรจง ทองอ่อน อายุ 80 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ได้ร้องไห้ จนเกือบเป็นลม ทางนายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชาย และ น.ส.อิสริยา ทองอ่อน อายุ 24 ปี หลานสาว ได้ช่วยกันปลอบ หลังจากนั้นจึงนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุในโลงเย็น โดยไม่มีพิธีรดน้ำศพเนื่องจากผู้เสียชีวิต เสียชีวิตมาหลายวัน ทางญาติไม่อยากให้ใครเห็นภาพของผู้ตาย โดยมีกำหนดการสวดอภิธรรมศพคืนนี้เป็นคืนแรก จากทั้งหมด 3 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 8 มิ.ย.67
ส่วนทางด้านป้าอ้อม อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านซึ่งเป็นช่างประจำบ้านที่สนิทสนมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนฝันเห็นผู้ตายคือนายไพศาลยืนอยู่บนสะพานข้ามคลองแถวบ้านโดยมีสีหน้านิ่งเฉย สวมชุดเสื้อสีฟ้าเหมือนตอนเสียชีวิต หน้าเหมือนมองอะไรซักอย่างอยู่ โดยนำมือเกาะราวสะพานอยู่ ส่วนตัวแล้วตนคิดว่าที่ผู้ตายมาให้เห็นคาดว่า ยังมีความรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวเป็นห่วงคุณแม่อยู่ ซึ่งวันนี้ตนเพิ่งมาบอกครอบครัวว่าฝันเห็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่กล้าบอกเพราะกลัวทางคุณแม่ของผู้ตายคิดมาก เสียใจ โดยปกติแล้วตนสนิทกับคนตาย และครอบครัวเคยทำงานด้วยกัน เวลาบ้านผู้ตายมีปัญหาก็จะโทรเรียกตนไปไปซ่อมบ้านประจำ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางนำเอกสารเข้าพบครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อแจ้งสิทธิ์ในการช่วยเหลือเยียว ยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเข้าข่ายผู้เสียหายในคดีอาฯ ตามหลักเกณเบื้องต้นมีการช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 11,000 บาท
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. นางบรรจง ทองอ่อน อายุ 80 ปี แม่ผู้เสียชีวิต พร้อทนายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชาย มอบหมายให้ทางไวยาวัจ กรวัดได้ทำพิธีเปิดโลงให้กับนายไพศาล ผู้เสียชีวิต โดยการนำสายสิญจน์ โยงผู้กับไม้ พร้อมจุดเทียนทั้งหมด 8 เล่ม โดยจุดวนด้านขวาก่อนดับเทียนแล้วนำมีดโบราณเคาะไปที่โลงทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนให้ทางด้านนายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เรียกชื่อผู้ตายให้เข้ามาอยู่ในโลงศพที่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณ หลังจากเสร็จพิธีเปิดโลง ทางครอบครังผู้เสียชีวิตได้มีการพูดคุยกับในครอบครัว และปรึกษาทางพระอาจารย์ภายในวัด ว่าสามารถจัดพิธีรดน้ำศพได้ โดยไม่ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากโลง ทางครอบ ครัวจึงได้ทำการรดน้ำโดยรดผ่านรูปถ่ายโดยมี สายสิญจน์โยงผูกอยู่กับรูป
นายฉัตรชัย (พี่ชายผู้เสียชีวิต) กล่าวว่า ตอนแรกทางญาติได้มีการปรึกษากันว่าหลังจากนำศพมาจากโรงพยาบาล จะไม่มีพิธีรดน้ำศพ เพราะไม่อยากให้มีใครเห็นสภาพศพของน้องชาย เนื่อง จากมีบาดแผลหลายแห่ง รู้สึกสะเทือนใจขนาดตนเป็นคนไปรับศพที่โรงพยาบาลเองยังรับไม่ได้ กับสภาพศพของน้องชายที่ได้เห็น จึงตั้งใจว่าจะไม่มีพิธีรดน้ำศพแต่จะใช้วิธีสวดอภิธรรมศพแทน กระทั่งได้ปรึกษากับพระอาจารย์ที่อยู่ในวัด บอกว่าทำพิธีรดน้ำศพได้ โดยการรดน้ำผ่าน ทางรูปถ่ายและโยงสายสิญจน์ไปที่โลงศพของผู้ตาย เปรียบเสมือนตัวผู้ตายนอนให้รดน้ำศพ ทางญาติจึงได้ตัดสินใจทำตาม ส่วนกรณีที่พ่อหรือญาติของโฟโต้จะมาร่วมพิธีศพในคืนนี้ ตนไม่ได้ห้าม เปรียบเสมือนแขกที่มาร่วมภายในงาน ส่วนตัวตนไม่รับคำขอโทษหรืออโหสิกรรมให้ เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่น้องชายถูกกระทำ
นางบรรจง แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนั้นแม่ไม่รับซองทางฝั่งผู้ก่อเหตุมีอาการฮึดฮัด ตนไม่ได้ว่าลูกเขาเลว ตอนนั้นพูดไม่ออกตนสูญเสียลูกชายแต่กลับมาทำปฏิกิริยาไม่พอใจ ตนรู้สึกเสียใจมาก ลูกชายตนตั้งแต่เด็กไม่เคยเกเร ใครได้ข่าวทุกคนตกใจเพราะลูกชายเป็นคนไม่เคยละลานใคร ดูแลแม่อย่างดีซื้อของให้แม่กินเอาของไปขาย รับศพมาแม่ยังไม่กล้าไปดู เพราะแม่รับไม่ได้ ถ้าวันนี้พ่อของผู้ก่อเหตุมาตนก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนแขกคนนึงที่มาร่วมงานศพ อยากบอกลูกชายว่าไม่ต้องห่วงแม่หลับให้สบายหนูทำดีกับแม่มาตลอดหนูไม่ต้องห่วงแม่
Discussion about this post