อภิวัฒน์ งามพาณิชยกิจ รายงานจากชัยนาท 0824917974
วันที่ 30 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพน้อยที่1 ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค1 และคณะ ลงพื้นที่ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยมีนายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่12 นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 และผู้แทนจาก ปภ.จังหวัดชัยนาท กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่
สำหรับในปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,314 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อน อยู่ที่ 15.91 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.10 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 4.24 เมตรและเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจากการระบายน้ำดังกล่าวปัจจุบันส่งผลทำโดยจะมีพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบ
*** โดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพน้อยที่1 ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค1 เผยว่า สำหรับการลงพื้นที่ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในครั้งนี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค1 ได้มีความห่วงใยในเรื่องของสถานการณ์น้ำที่อาจจะท่วมบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีความสุ่มเสี่ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศร่องมรสุม ร่วมไปถึงปริมาณน้ำจากทางภาคเหนือที่จะไหลลงมา
*** ภายหลังการประชุม พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพน้อยที่1 ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค1 และคณะ ได้ลงพื้นที่สันเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อติดตามรับฟังการบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา และได้เน้นย้ำหน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ถึงนโยบายของทางผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก เข้าช่วยเหลือประชาชนทันที หากเกิดเหตุการณ์การฉุกเฉิน ให้ทุกหน่วยเตรียมกำลังให้พร้อมรับมือบรรเทาทุกข์ชาวบ้านอย่างทันท่วงที
Discussion about this post