
วันที่ 23 พย.67 พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชายสวมหมวกกันน็อคจำนวน 2 คน มาเก็บเงินรายวันไม่ได้ขู่ทำร้ายร่างกาย และได้ทำลายข้าวของเสียหาย ที่ซอยพัฒนา ชุมชนศรีมุกดาหาร เขตเทศบาลเมือง อ.เมืองมุกดาหาร จึงสั่งการร้อยเวรสอบสวนพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ลงพื้นที่ได้รับแจ้งทันที
ที่เกิดเหตุพบนางลำไย ชาสงวน อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 20 ซอยพัฒนา ถนนชยางกูร ข. อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบกำลังโต้เถียงกันอยู่บริเวณหน้าร้านขายของ ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่สายตรวจเทศกิจเทศบาลเมืองมุกดาหาร ขับรถผ่านมาพบจึงได้ลงมาสังเกตการณ์ และได้สอบถามรายละเอียดผู้เสียหายและกลุ่มชายเก็บเงินกู้รายวัน
นางลำไย ชาสงวน ผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้กู้เงินกับนายโจมา 5,000 บาทประมาณเดือนพฤษภาคา 67 และได้ผ่อนวันละ 100 บาทเฉพาะดอกเบี้ย เป็นเวลากว่า 6 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน และทำสัญญากู้เงินกับนายโจโดยนายโจได้เก็บสัญญาไว้คนเดียว ที่ผ่านมาตนจ่ายดอกเบี้ยมานานกว่า 6 เดือน ส่วนเงินต้นคงเหลือตนเองได้นำรถจักรยานยนต์มาใช้หนี้ ซึ่งนายโจก็รับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวของตนเองไปเพื่อใช้หนี้ แต่เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 67 นายโจ พร้อมพวกได้มาบอกกับตนเองว่าหนี้ยังค้างอยู่อีก 5,000 บาท ตนเองก็บอกไปว่าได้เอารถจักรยานยนต์ใช้หนี้ไปแล้ว นายโจพร้อมพวกได้กลับไปต่อมาวันนี้นายโจได้มากับชายคนเดิม ทวงหนี้ที่ค้างจำนวนเดิมอีกแต่ตนไม่ยอม นายโจพร้อมพวกได้ข่มขู่ และทำลายข้าวของในร้านตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ
จากการสอบสวนกลุ่มชายดังกล่าว ทราบว่าไม่มีเอกสารใบอนุญาตปล่อยเงินกู้ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ทั้งยังแต่งกายแบบมิดชิดและใส่หมวกกันแบบเต็มใบป้องกันมิให้เห็นใบหน้า ซึ่งหากมีเหตุอาชญากรรมร้ายแรงหรือเหตุการทำร้ายเกิดขึ้นก็จะไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง ฝากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายช่วยกันกวดขันกลุ่มหมวกกันน๊อคเก็บเงินรายวันเหล่านี้ด้วย ขณะอยู่ในสถานีตำรวจแก๊งค์เงินกู้ยังห้ามสื่อมวลชนมิให้ถ่ายภาพอีกด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่าแก๊งค์หมวกกันน๊อคมีความเหิมเกริมอย่างหนัก เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของประชาชนกระจายไปทุกแห่ง ส่งผลให้มีเหตุและปัญหายิบย่อยเกิดขึ้นตลอดมา ทั้งยังส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของท้องถิ่นเสียหายอย่างหนัก จากการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดโดยผิดกฎหมายเหล่านี้ เป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไข จากเม็ดเงินที่หายเข้าไปสู่ระบบดอกเบี้ยโหดรายวันโดยด่วน อย่าปล่อยให้ประชาชนหาอยู่หากินด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้เชิญตัวผู้เสียหาย พร้อมกลุ่มเงินกู้ดังกล่าวดำเนินการสอบสวนที่ สภ.เมืองมุกดาหาร ขณะสอบสวนแก๊งค์หมวกกันน๊อคยังข่มขู่สื่อมวลชนห้ามมิให้ถ่ายภาพอีกด้วย เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนผู้เสียหายและแก๊งค์เงินกู้นอกระบบ ก่อนนำตัวบันทึกปากคำ และจับ 2 หนุ่มเงินกู้หัวหมอไปดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมาย ทำลายสิ่งของเสียหาย ไม่มีใบขับขี่ บัตรประชาชน ข่มขู่ทำร้ายทำลายสิ่งของ สร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชน
ด้าน พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ถ้าหากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ขอให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มปล่อยเงินกู้รายวันที่มาข่มขู่ทำร้ายให้มาแจ้งความได้ที่ สภ.เมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะติดตามกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีทุกราย ผิดว่าไปตามกฎหมายอย่างหนักไม่มีละเว้นจะให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนที่ถูกรังแก++++
Discussion about this post