เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านทุ่งเคล็ด หรือวัดโบสถ์เหรียญบาท หมู่ที่ 3 ตำบลนาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีคำสั่งเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด ที่ ๐๐๕/๒๕๖๘เรื่อง อนุญาต ให้พระประสิทธิ์ สัญจร เข้าอยู่วัดบ้านทุ่งเคล็ดโดยมีบทบัญญัติแห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๙ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ว่าด้วยการ
ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ในมาตรา ๓๘ ในกรณีที่ไม่มีเจ้าอาวาสหรือเจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ใด้ ให้แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ให้ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส มีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๘ (๑)(๓) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอาศัยในวัด จึงให้ พระประสิทธิ์ สัญจร เข้ามาอยู่วัดบ้านทุ่งคล็ด และดูแลจัดการวัดบ้านทุ่งคล็ดทั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ …๑๕…. เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
ลงชื่อ พระครูสังฆรักษ์ สำราญ อภิชาโต ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด รองเจ้าคณะอำเภอทับสะแก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่พระประสิทธิ์ สัญจร รองเจ้าคณะอำเภอทับสะแก ได้รับการแต่งตั้งให้มีอำนาจดูแลวัดบ้านทุ่งเคล็ด พร้อมถือหนังสือสั่งการ เมื่อชาวบ้านเห็นจึงเข้าไปสอบถามว่ามาทำไม มาทำอะไร จึงมีการปะทะคารมกระทบกระทั่งกับชาวบ้าน ต่อมาชาวบ้านได้รวมตัวเข้าไปล้อมขับไล่ให้ออกไปจากวัด โดย จนท.ตำรวจที่รักษาความสงบเรียบร้อยได้นิมนต์เจ้าอาวาสองค์ใหม่กลับวัดนาล้อม ที่ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่พระอาทิตย์เจ้าอาวาสองค์เดิม หลายเดือนที่ผ่านมามีคำสั่งปลดจากเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมหานิกาย เนื่องจากมีคดีความกับเอกชนและมีคำพิพิพากษาศาลถึงที่สุด โดยเจ้าคณะจังหวัดสั่งให้ออกจากวัดทุ่งเคล็ค ไปจำวัดที่วัดอื่น แต่ไม่ขาดจากความเป็นพระภิกษุ
ทั้งนี้ น.ส.อมรทิพย์ ภู่ระย้า (เสื้อดำ ถือกระเป๋าชมพู) แกนนำชาวบ้าน ญาติธรรมวัดทุ่งเคล็ด ได้เดินเข้าไปสอบถามพระประสิทธิ์ ว่ามาทำไม และมาทำอะไร เพราะชาวบ้านไม่ต้อนรับเจ้าอาวาสองค์ใหม่ จึงบอกให้นิมนต์กลับ แต่มีการปะทะคารม จนชาวบ้านลุกฮือไปขับไล่
Discussion about this post