วันนี้ 15 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สวป.สภ.สังขละบุรี ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่าให้ช่วยสกัดจับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ระยอง เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนขโมยไปจากพื้นที่ สภ.บ้านค่าย จ.ระยองเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังชายแดนพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
หลังจากได้รับการประสาน พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ประจำจุดกรวดน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.134 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ร่วมกันเฝ้าระวังและสังเกตลักษณะของรถยนต์ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู ที่มีเขตติดต่อกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาอย่างใกล้ชิด
จนกระทั่งเวลา 04.30 น.เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าไปยังชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบคนขับเป็นชาย มีผู้โดยสารมาด้วยกันอีก 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน รวมทั้งหมด จำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวคนขับและผู้โดยสารที่มาด้วยกันทั้งหมดลงมาจากรถ พร้อมแสดงเอกสารใบแจ้งความร้องทุกข์ รถถูกคนร้ายขโมย ของ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ให้คนขับและผู้โดยสารที่มาด้วยกันได้รับทราบถึงเหตุผลของการตรวจสอบ
จากนั้นจึงนำตัวพร้อมรถยนต์ของกลางไปทำบันทึกเอาไว้ที่ สภ.สังขละบุรี จากนั้นจึงประสานไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทราบเพื่อให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย กลับไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดี พร้อมส่งมอบรถยนต์กระบะของกลางคันดังกล่าวคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป
ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าของรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นอย่างมาก ที่เจ้าหน้าที่ ตร.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำจุดตรวดน้ำเกิ๊ก หูตาไว สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย และตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวเอาไว้ได้ก่อน เพราะเหลือระยะทางอีกแค่กระมาณ 4-5 กิโลเมตรเท่านั้นก็สามารถลักลอบรำรถยนต์ข้ามชายแดนไปตามช่องทางธรรมชาติแล้วนำไปขายให้กับนายทุนที่อยู่ฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาได้อย่างง่ายดาย
//////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์




































