วันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายพิสิษฐ์ รื่นเกษม ประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายวันชัย เทียนสมบูรณ์ ที่ปรึกษาชมรมฯ และสมาชิก ได้ร่วมประชุมและแถลงข่าวกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์และรายการโทรทัศน์ เกี่ยวกับเหตุขัดแย้งระหว่าง “ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ” กับ “ผู้ประกอบการธุรกิจรายหนึ่ง” ในพื้นที่ อำเภอปราณบุรี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ประกอบการรายดังกล่าวได้นำเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการ “เรียกรับผลประโยชน์” พร้อมทนายความไปเผยแพร่ในรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสังคม โดยทางชมรมฯ ขอชี้แจงว่า
ผู้สื่อข่าวที่ตกเป็นข่าว “มิได้เป็นสมาชิกของชมรมสื่อมวลชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์” และทางชมรมฯ ไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้สื่อข่าวรายดังกล่าวสังกัดสำนักข่าวใด
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ามี กลุ่มไลน์ระดับจังหวัดและบุคคลบางราย ได้ส่งข้อความแชทในลักษณะกดดัน หรือแสดงความคิดเห็นในทางที่อาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของชมรมฯ รวมถึงพยายามให้ชมรมฯ รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและอาจเข้าข่าย หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางชมรมฯ ได้ประชุมพิจารณา รวบรวมหลักฐาน ข้อความการแชท และข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเพื่อปกป้องชื่อเสียงขององค์กร โดยที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการทางกฎหมายดังนี้
- ดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาท ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 (กรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา)
- ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(1) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือองค์กร
โดยทางชมรมฯ จะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใส และยืนยันจุดยืนของชมรมฯ ในการทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างถูกต้องตามจรรยาบรรณ