คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง! “สุดาวรรณ” ชู “กาฬสินธุ์โมเดล” ใช้มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์เป็นคลังสมองแก้จนด้วยงานวิจัย-นวัตกรรม ทั้ง “เมนูแก้จน“ จนถึงทางเลือกอาชีพ พร้อมบูรณาการท้องถิ่น ลดสัดส่วนครัวเรือนยากจนจาก 30% เหลือ 6% เพิ่มรายได้ครัวเรือนจาก 4,000 บาท/เดือน เป็น 10,000 – 18,000 บาท/เดือน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2568 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยพร้อมด้วยนายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการ รมว.อว. ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว.และคณะ เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและฝึกอบรมภูสิงห์ ม.กาฬสินธุ์ เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน และการเลื่อนชั้นทางสังคมของครัวเรือนยากจน จ.กาฬสินธุ์ หรือ โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท.สนับสนุนทุนเพื่อดำเนินโครงการวิจัยฯ
รวมทั้งรับฟังผลการดำเนินงานการใช้ประโยชน์งานด้าน อววน. เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่ พร้อมพบปะและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยมี รศ. ดร.สุพรรณ สุดสนธิ์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์,ดร.ศักดิ์เกษม ปานะลาด รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ คณะอาจารย์ นักศึกษา ผู้นำชุมชน วิสาหกิจชุมชน และประชาชนที่ได้ประโยชน์จากโครงการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง
โดยมีนายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ ได้บรรยายแนวทางการยกระดับศักยภาพของชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ดร.ศักดิ์เกษม ปานะลาด รองอธิการบดี ม.กาฬสินธุ์ บรรยายสรุปโครงการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนดังกล่าว

สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดําเนินงานการใช้ประโยชน์งานด้าน อววน. เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจครัวเรือนแบบร่วมมือและการจัดองค์กรสวัสดิการธุรกิจชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนจังหวัดกาฬสินธุ์ การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการแรงงานยากจนมีทักษะ การพัฒนาการจัดการการศึกษาแบบบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กในจ.กาฬสินธุ์ ผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และกลุ่มต่าง ๆ ภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยผลจากการงานวิจัยสามารถช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่มาตรฐานสากล อีกทั้ง สามารถนำภูมิปัญญาไปสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กาฬสินธุ์โมเดล” มีจุดเริ่มต้นจากความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีอัตราความยากจนสูงที่สุดของประเทศ ภายใต้แนวคิด “คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โครงการนี้จึงประสบความสำเร็จอย่างสูงในการลดจำนวนครัวเรือนยากจนลงได้อย่างเป็นรูปธรรม สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน ทำให้พวกเขาสามารถเลื่อนชั้นทางสังคมและยืนหยัดได้ด้วยตนเอง จนกลายเป็นต้นแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ
“การบูรณาการความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐที่นำโดยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุนทรัพยากรและองค์ความรู้ และภาคประชาสังคมที่ช่วยขับเคลื่อนในระดับชุมชน ทุกฝ่ายทำงานลงพื้นที่ไปวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของแต่ละครัวเรือนอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำกลไก อววน. (อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม) เข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ยกระดับการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ เช่น ม.กาฬสินธุ์ ทำหน้าที่เป็น ‘คลังสมอง’ ช่วยนำองค์ความรู้ทางวิชาการ งานวิจัย และนวัตกรรมมาสนับสนุนการสร้างอาชีพ เช่น การพัฒนา “เมนูแก้จน”หรือทางเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพของครัวเรือน การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ การส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ และการช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นทางออกสำหรับแก้ไขปัญหาความยากจน และเป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง“ น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
ด้านนายกีรฒิการย์ กล่าวถึงแนวทางการยกระดับศักยภาพชุมชน ว่า เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีแนวนโยบายที่อยากจะแก้ปัญหาความยากจนโดยร่วมมือกับ ม.กาฬสินธุ์ ที่จะพัฒนาร่วมกันโดยทำวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ โดย ม.กาฬสินธุ์ มีฐานข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่งทำให้เรารู้ว่าจุดไหนที่เราจะต้องแก้ปัญหา จะได้นำเอาเทคโนโลยีเข้าไปแก้ได้อย่างตรงจุด และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เกิดการเพิ่มมูลค่า เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้กาฬสินธุ์ของเราเจริญก้าวหน้า ลดปัญหาผู้ยากไร้ยากจน ต่อไป
ขณะที่ ดร.ศักดิ์เกษม ได้สรุปผลการดำเนินงานโครงการการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการเลื่อนชั้นทางสังคมของครัวเรือนยากจน จ.กาฬสินธุ์ ว่า มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ได้ร่วมกับภาคี ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ปี 2563 โดยเฉพาะการนำเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมไปพัฒนา สร้างงาน สร้างอาชีพ โดยมีเป้าหมาย 12,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ 9 อำเภอ ทั้งนี้ปัจจุบันครัวเรือนยากจนของ จ.กาฬสินธุ์ลดลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ และสามารถยกระดับรายได้ประชาชนได้จาก 4,000 บาท เป็น 10,000 – 18,000 บาท ต่อเดือนถือว่าประสบความสำเร็จ โดยในปี 2568 จะยังคงมุ่งมั่นที่จะมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนให้สัดส่วนครัวเรือนยากจนจ.กาฬสินธุ์ลดลงมากกว่าปัจจุบัน
ขณะที่นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณและขอชื่นชมมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่ร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์จนประสบความสำเร็จและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนมีรายได้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญจากความมุ่งมั่นที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวนี้ ทำให้ จ.กาฬสินธุ์ จากเดิมที่เคยติด 1 ใน 10 จังหวัดที่มีความยากจนมากที่สุด ปัจจุบันไม่ได้อยู่ติดอยู่ 1 ใน 10 แล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนโครงการนี้ เพื่อขจัดความยากให้ประชาชนชาวจ.กาฬสินธุ์อย่างนี้ต่อไป



































