วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณสะพานลำทวน แลนด์มาร์คสำคัญข้างพญาแถน ถนนแจ้งสนิท เขตเทศบาลเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายสันชัย พัฒนวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พันเอก ธนาธิป เรียงอิศราง รอง ผอ.รมน.จังหวัด ย.ส. (ท.) นายสมชัย บูรณะ ปลัดจังหวัดยโสธร นำทีมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนจิตอาสา เปิดปฏิบัติการเปิดทางน้ำกำจัดผักตบชวาและวัชพืชเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่มักมาเยือนในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนของทุกปี
นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ลำน้ำทวนเป็นดั่งเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชาวเมืองยโสธร มีต้นกำเนิดจากอำเภอทรายมูลไหลผ่านใจกลางเมืองก่อนจะไปบรรจงลงสู่แม่น้ำชี แม้พายุคาจิกิจะผ่านไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนของทุกปีมักจะเกิดพายุและฝนตกหนัก ทำให้ลำน้ำสายนี้ต้องแบกรับมวลน้ำจำนวนมาก ประกอบกับบริเวณสะพานข้ามถนนแจ้งสนิทมักเป็นจุดรวมตัวของผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างเชื่องช้า เสี่ยงต่อน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่ง จุดนี้จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดการอุดตันจากผักตบชวา อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างถึงบ้านเรือนและพื้นที่ริมตลิ่งได้
การรวมพลังในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การเปิดทางน้ำ แต่คือการแสดงพลังความสามัคคีของชาวยโสธรที่ไม่ยอมจำนนต่อภัยธรรมชาติ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 -31 สิงหาคม 2568 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการใช้เครื่องจักรกลหนักและรถบรรทุกเข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลให้การจราจรบนถนนแจ้งสนิทเกิดความไม่สะดวกในบางช่วงเวลา ตั้งแต่ 08:00 – 17:00 น. จึงขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้เส้นทางโปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยในส่วนของผักตบชวาและวัชพืชที่เก็บขึ้นมาได้นั้นจะไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า แต่จะถูกขนย้ายไปยังสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดยโสธร บริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่หนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านแจ้งน้อย ตำบลค้อเหนือ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรือปุ๋ยหมักเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตร เป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส และหมุนเวียนทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับแนวทางของโครงการฯ ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืนควบคู่กับการสร้างประโยชน์คืนสู่ชุมชน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการดำเนินการและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นชั่วคราว พร้อมทั้งขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความปลอดภัยและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับเมืองยโสธรต่อไป
ภาพ/ข่าว สมัย คำแก้ว ยโสธรรายงาน
