วันนี้ 30 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีลานด้านหน้าเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการจัดกิจกรรมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์การแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 พร้อมตรวจติดตามราชการสำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย
โดยมีนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ นายวิฑูรย์ สิรินุกูล รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวรายงาน มีนายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 นางแทมมี่ ลินน์ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugee: UNHCR) ประจำประเทศไทย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ นายสิทธิวีร์ วรรณพฤกษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
นายทรัฑ เหลืองสะอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวอำเภอสังขละบุรี และประชาชนที่ได้รับบัตรตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 กว่า 2,000 คน ให้การต้อนรับ
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ทุกคนที่มารับบัตรต่างมีอาการตื่นเต้นดีใจมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นอย่างมาก ขณะที่นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งร่วมรับชมการแสดง “มนต์เสน่ห์ดินแดน แห่งความร่มเย็น” และรับชมวีดีทัศนการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลฯ จากนั้นนางแทมมี่ ลินน์ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugee: UNHCR) ประจำประเทศไทย ได้กล่าวเกี่ยวกับงานสัญชาติและสถานะบุคคล ในหัวข้อ “Statelessness”
โดยนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 อนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคล 2 กลุ่ม คือ (1)กลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ให้ได้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ใบสำคัญถิ่นที่อยู่) ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และ (2) กลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้รับสัญชาติไทยโดยมีบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าวให้ได้สัญชาติไทย เป็นการทั่วไป ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551
ซึ่งกรมการปกครองได้จัดทำประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและอาศัยอยู่มานาน โดยมีผลใช้บังคับในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และการสั่งให้คนที่เกิดในราชอาณาจักรไทย และไม่ได้รับสัญชาติไทย โดยมีบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าวได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568
โดยจังหวัดกาญจนบุรี มีกลุ่มเป้าหมายการขอสัญชาติไทย และการขอสถานะคนต่างด้าวเข้าเมือง โดยชอบด้วยกฎหมาย มีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 59,080 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่เกิดไทย จำนวน 12,625 ราย (ขอมีสัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง พรบ.สัญชาติฯ) และกลุ่มที่อพยพเข้าไทย จำนวน 46,455 ราย (ขอสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองฯ ตามมาตรา 17 พรบ.คนเข้าเมืองฯ) ผลการดำเนินงาน 1.จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งอำเภอทุกแห่งเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานและให้ศึกษาทำความเข้าใจประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมการปกครองดังกล่าว และเน้นย้ำว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้กลุ่มบุคคลเป้าหมายให้ได้สัญชาติไทยหรือสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองฯ (ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวร) อย่างรวดเร็ว เป็นการให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
สรุปผลคำขอลงรายการสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และขอสถานะคนต่างด้าวเข้าเมือง ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ของสำนักทะเบียนอำเภอทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2568 มียอดดำเนินการ ยื่นคำขอลงรายการสัญชาติไทย ม.7 จำนวนผู้ยื่นคำขอ 2,870 ราย อนุมัติแล้ว 1,396 ราย คิดเป็นร้อยละ 48.64 ยื่นคำขอสถานะคนต่างด้าวเข้าเมือง ม.17 จำนวนผู้ยื่นคำขอ 12,162 ราย อนุมัติแล้ว 6,143 ราย คิดเป็นร้อยละ 50.50 สรุปรวมผู้ยื่นคำขอทั้งหมด จำนวน 15,032 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.44 อนุมัติรวมทั้งหมด จำนวน 7,539 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.76
ด้านนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามมติ ครม.29 ต.ค.2567 เป็นอย่างมาก และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับบัตรประจำตัวทุกๆคนในวันนี้ เพราะหลังจากนี้ไปจะทำให้ทุกๆคนนั้นสามารถที่จะได้รับสิทธิ์ที่ทุกคนควรจะมีน้องๆที่ได้รับบัตรในวันนี้เขาดีใจมากสิทธิที่เขาจะได้รับต่อจากนี้ก็คือการได้เรียนหนังสือในวิชาต่างๆ ตรงตามวิชาที่ต้องการ ต้องย้ำเตือนว่านี่คือสิ่งที่ประเทศไทยได้ทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน องค์กรนานาชาติ UNGCR คือหน่วยงานสำคัญในการผลักดันเรื่องต่างๆเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงได้สร้างการรับรู้ให้กับทั่วโลกว่าประเทศไทยของเรานั้นได้ดำเนินการตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในเวทีทุกๆเวที และเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตามไม่ว่าท่านจะมาจากที่ใด หากว่าท่านนั้นได้อยู่ในสิทธิ์อยู่ในเกณฑ์ที่ท่านสามารถที่จะได้รับบัตรได้ เราก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็วตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการหลายปีพี่ๆที่มาในวันนี้หลายคนบอกว่ารอมาทั้งชีวิต บางคนรอมา 10 กว่าปี 20 กว่าปี หรือ 30 กว่าปี วันนี้เป็นวันที่ทุกท่านนั้นได้รับสิ่งที่รอคอยแล้ว และช่วงตลอด 2 เดือนที่เราเร่งดำเนินการนั้นมีจำนวนของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ที่รอคอยมานานมากกว่า 10 ปี นี่ก็คือสิ่งที่เป็นความน่าภาคภูมิใจว่าด้วยการร่วมมือร่วมใจกันจากทุกภาคส่วนจากกระบวนการตามขั้นตอนที่ต้องใช้มากมากถึง 180 วัน ลดเหลือเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น
ต้องขอชื่นชมในความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกๆคนที่ทำให้นโยบายของทางรัฐบาลนั้นเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว จนประสบความสำเร็จได้มอบความสุขให้กับพี่น้องประชาชนที่เขาเองได้ขาดสิทธินั้นมาโดยตลอดชีวิต ทำให้วันนี้ทุกคนได้รับการดูแลจากทางภาครัฐ ซึ่งประเทศไทยของเราได้มีความตั้งใจ รัฐบาลไทยของเรามีความมุ่งมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ท่านเคยได้ไปในหลายๆพื้นที่ ได้พบกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ได้พบพบกับกลุ่มพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือ แล้วก็ท่านก็ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการ แล้ววันนี้ก็มาถึง
ขอให้ทุกๆคนที่ได้รับบัตรในวันนี้ ได้ทำหน้าที่ของท่านในการเป็นพลเมืองของไทยให้ได้อย่างดีที่สุด ให้ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยของเราให้มีความเจริญก้าวหน้า และขอให้น้องๆทุกคนที่ต่อไปนี้จะได้เรียนในสิ่งที่ทุกคนนั้นตั้งใจ ได้ประสบความสำเร็จเป็นอนาคตของประเทศไทยต่อไป
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
